ชีวิตและงาน นพ.กมล พันธ์ศรีทุม

นพ.กมล พันธ์ศรีทุม

 

รู้จักชีวิตและงาน   นพ.กมล พันธ์ศรีทุม


                   เมื่อ เร็วๆนี้ในตอนบ่ายวันอาทิตย์   ต้นฤดูฝนที่ผ่านมา ได้มีโอกาสนัดหมาย กับ นพ.กมล พันธ์ศรีทุม   เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตและงาน  ศัลยกรรมตกแต่งความงามและ แปลงเพศ   ซึ่ง เป็นที่ยอมรับใน ระดับแนวหน้าของโลก   ตามปกติแล้ว วันอาทิตย์จะเป็นวันที่ว่าง จากการผ่าตัด  จะใช้ชีวิตพักผ่อนอยู่กับครอบครัว    แต่สำหรับวันอาทิตย์นี้เป็นวัน พิเศษ  จึงได้มีโอกาส นั่งพูดคุยกับคุณหมอ ถึง     โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง ที่สร้างขึ้นมา   การทำงานร่วมกับทีมงาน และ การดูแลคนไข้    ดุจดังครอบครัวเดียวกัน  โดยมี คุณศิริเพ็ญ  ภรรยา เป็นผู้บริหาร


                    คุณหมอกมล เกิดและเติบโต มาจากหมู่บ้านเล็กๆ ติดแม่น้ำโขง  ในอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย   เพียงแค่ข้ามน้ำโขงก็จะเป็นเมือง เวียงจันทร์  ประเทศลาว  มีพี่น้อง 3 คน  มีน้องชายเป็น วิศวะ  น้องสาว เป็นพยาบาล  และอีกคนหนึ่งเป็น แม่บ้าน   ประสบการณ์บางอย่างในวัยเด็กที่ได้เห็น  ได้ทำ  ได้เรียนรู้   ได้สร้างแรงบันดาลใจ และ หล่อหลอมการเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งในวันนี้  เช่น ชอบวาดรูปลายเส้น  เมื่อตอนอยู่ชั้น ประถม ปีที่ 4  ได้วาดรูปในหลวง รัชการที่9  ด้วยดินสอแรงเงา  ต่อมาในช่วงปี พศ. 2518-2519 เป็นช่วงเวลาของสงครามในลาว  เวียดนาม  และเขมร  มีผู้อพยพ หนีตายแอบว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง บางคนก็มีโอกาสรอด ได้มาขึ้นฝั่ง  บางคนถูกยิงตาย ตอนเช้าๆจะเห็นศพ ลอยตามน้ำโขง  เห็นสภาพผู้คนที่บ้านแตก ครอบครัวสูญหาย  บาดเจ็บ  ทางรัฐบาลและหน่วยงานสหประชาชาติ ก็สร้างศูนย์ อพยพในหลายๆจังหวัดที่ติดชายแดน จังหวัดหนองคายก็มีศูนย์นี้เช่นกัน  ภาพที่ได้เห็นเหล่านี้ได้สร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก  ให้เด็กชายคนหนี่ง  ที่ ต้องมุ่งมั่นเรียนหนังสืออย่างหนัก  เพราะคิดว่าการศึกษาเท่านั้นที่จะทำให้มีชีวิตที่ดีกว่านี้ และ ไม่อยากจะเป็นผู้อพยพแบบนี้  จึง ต้องปั่นจักรยาน จากหมู่บ้านไปเรียนหนังสือในอำเภอ วันละ  20 กิโลเมตร บนถนน ที่มีแต่โคลนในหน้าฝน  มีแต่ฝุ่นแดงๆในหน้าหนาว หน้าแล้ง    เมื่อขี่จักรยาน ไม่ไหวแล้ว  พ่อก็พาไปฝากพระ   อยู่กับวัดที่ใกล้โรงเรียน  แต่ก็มีประสบการณ์อยู่กับเณร  2-3 เดือน    ต่อมาไปอาศัยอยู่กับ องเถียด คนเวียดนามที่อพยพมา  จนจบ มศ.3 (องเถียด  ก็กลับประเทศเวียดนามหลังสงครามสงบอีก 10 ปีต่อมา)   ไปเรียนต่อมัธยมปลาย ที่แก่นนคร จังหวัดขอนแก่น  จนกระทั่งสอบเข้าคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น   จนจบแล้วเรียนต่อศัลกรรมทั่วไป และศัลยกรรมตกแต่ง ที่คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์


                        ระหว่างที่มาเรียนเป็นแพทย์ประจำบ้าน ศัลยกรรมทั่วไปที่จุฬา  ก็ได้พบกับภรรยา.”ศิริเพ็ญ “ ซึ่งเธอทำงานอยู่บริษัทยาแห่งหนึ่ง  เธอจบการศึกษาคณะเภสัชศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่   แต่งงานกันในปีพศ. 2535 ปัจจุบันมีลูกสาว 1 คน ลูกชาย 1 คน ทั้งคู่สำเร็จการศึกษาแพทย์ศาสตร์ แล้ว  กำลังเป็น แพทย์ฝึกหัด


                        หลายปีผ่านไปของการเป็น  คู่ชีวิตและเพื่อนคู่คิด  ของกันและกัน   ของ กมล และ ศิริเพ็ญ   ซึ่งมีความสามารถในการบริหารจัดการทุกอย่างของเธอ  ได้สร้างโอกาสให้  “ศัลยแพทย์หนุ่ม “  ได้มีโอกาสเรียนรู้  พัฒนาทักษะ เทคนิคต่างๆตลอดเวลา   เก็บเกี่ยวสะสมประสบการณ์  จนเติบโตเป็น  “ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดแปลงเพศ  “เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ  ทั้งการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง และ หญิงเป็นชาย  และ โรงพยาบาลแห่งนี้ ยังเป็นที่แบ่งปันความรู้  ให้กับศัลยแพทย์ต่างๆทั่วโลกอีกด้วย


                        แต่อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของทั้งหมดคือคนไข้   ที่ทางคุณหมอกมล และทีมงาน ได้ส่งมอบความรู้สึกดีๆ ๆให้ความรัก ความอบอุ่น และความมั่นใจ  ในการที่จะเดินต่อไป   เพื่อมีชิวิตใหม่ที่ประสบความสำเร็จ  มีความสุข  หลายๆคนได้เขียน เล่า  ถ่ายทอดประสบการณ์ ของการมาที่นี่ แล้ว พบกับความสุข ความสมหวัง   หรือถ่าย วีดีโอของการเดินทางมาที่นี่  ลงในสังคมโลกออนไลท์  ทำให้โรงพยาบาลเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั่วโลก    


                      เพราะการทำงานที่ชอบ ความต้องการการดูแลที่ดีก็เพิ่มมากขึ้น  กมลและภรรยา ได้สร้าง อพาทเม้นท์เซอร์วิส สำหรับคนไข้ในชื่อ “K Garden”  มี 68 ยูนิตเพื่อดูแลคนไข้ พักฟื้นหลังผ่าตัด 2-3 อาทิตย์
                      สำหรับเป้าหมายในอนาคต นพ. กมล อยากจะเป็น “ครู”  แต่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล ก็จะยังคงเป็น โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง และแปลงเพศ ชั้นนำต่อไป  ขณะเดียวกัน คอยให้คำแนะนำทีมศัลยแพทย์    สอน   แนะนำแลกเปลี่ยนประสบการณ์การผ่าตัดกับศัลยแพทย์ภายในองค์กร และศัลยแพทย์ที่สนใจทั่วโลก   และคัดเลือกคนที่สามารถจะมาเรียน  การผ่าตัดแปลงเพศนี้ได้ ตาม แนวคิดและเทคนิค ของคุณหมอกมลที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง     


                  นพ.กมล ให้แนวคิดว่า   ในการทำศัลยกรรมตกแต่ง  นอกจากการทำศัลยกรรมความงามแล้ว      การได้มีโอกาสแก้ไข ผลจากการทำศัลยกรรมตกแต่งที่ไม่ประสบความสำเร็จ  หรือ ผิดพลาด มาก่อน      หมอส่วนใหญ่ 99% ไม่ชอบทำ เพราะปัญหาซับซ้อน และต้องใช้ประสบการณ์ ความชำนาญสูง     ถ้าเราสามารถที่จะแก้ไขได้บ้าง  ก็เป็นการช่วยเหลือคนไข้ให้กลับมามีความมั่นใจอีครั้งหนึ่ง 


                     ในตอนท้ายนี้   นพ.กมล  คิดเสมอว่า  เราต้องรู้จักที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา จากผู้คนต่างๆที่อยู่รอบๆตัวเรา ด้วยเทคนิค และการเข้าหาที่ แตกต่างกัน    เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ แล้วทำการ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแนวคิดและการกระทำ  เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนไข้ และคนที่อยู่รอบๆตัวเรา   “ เพื่อจะได้ตัดสินใจแก้ปัญหาร่วมกัน”  นั่นคือบทสรุปทางความคิด ของ  เด็กนักเรียนชายในชนบทไทย   ที่ปั่นจักรยานไปโรงเรียน   แม้จะหลายสิบปีจะผ่านไป.....ก็ยังเป็นบทเรียนที่มีค่าในชีวิตตลอดไป

 

โดย.... Robert Challenger