การลบรอยสัก
รอยสัก คือ การลงสีบนผิวหนังที่เห็นได้ชัดเจนและถาวร รองจากการลงสีที่ชั้นหนังแท้
ในอดีต การลบรอยสักจำกัดที่การตัดทิ้งและการทำลาย (เช่น การผ่าตัด การกรอผิว การยิงเลเซอร์) การค้นพบทฤษฎีของการทำลายเฉพาะเมลานินโดยใช้ความยาวคลื่นที่เหมาะสมทำให้เกิดความก้าวหน้าในด้านการลบรอยสักด้วยเลเซอร์
เลเซอร์ประเภท Q-switched นิยมใช้ลบรอยสัก เพราะเป็นการลบรอยสักที่ได้มาตรฐาน และใช้มานานกว่า 2 ทศวรรษ ความยาวคลื่นเลเซอร์ที่อยู่ในอุปกรณ์ และการฉายแสงระยะสั้น ทำให้การรักษารอยสักมีประสิทธิภาพโดยมีรอยแผลเป็นน้อยมาก เครื่องเลเซอร์ Q-switched ผลิตแสงเลเซอร์ขนาดเล็กมีหน่วยเป็นนาโนวินาทีซึ่งทำให้สีของรอยสักแตกตัวในผิวหนัง เศษเม็ดสีของรอยสักที่แตกตัวจะยังคงอยู่ในผิวหนังหรือถูกกำจัดออกด้วยระบบน้ำเหลือง
เลเซอร์ประเภท Q-switched มีความยาวคลื่นแตกต่างกัน การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับสีของรอยสัก
- ความถี่ 532 นานาเมตร ผสานกับเลเซอร์ Nd:YAG
- ความถี่ 694 นาโนเมตร เลเซอร์สีทับทิม
- ความถี่ 755 นาโนเมตร เลเซอร์อเล็กซานไดรต์
- ความถี่ 1064 นาโนเมตร
การลบรอยสักที่มีหลายสีต้องใช้เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นมากกว่าหนึ่งความถี่ รอยสักสีเหลืองและสีส้มจะลบออกยากที่สุด ในขณะที่รอยสักสีน้ำเงินและสีดำจะกำจัดออกง่ายที่สุด การสักโดยให้เม็ดสีฝังลึกและกระจายตัวในชั้นหนังแท้จะลบยาก อาจจำเป็นต้องใช้เวลาลบนานขึ้น
Helios II คืออะไรและทำงานอย่างไร
Helios II เป็นอุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์จากบริษัท LASEROPTIK ของประเทศเกาหลี ซึ่งยิงแสงเลเซอร์ประเภท Nd:YAG Q-switch ที่มีความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตรและ 532 นาโนเมตร โครโมฟอร์เป้าหมายของ Helios II คือ เมลานินและรอยสักที่มีเม็ดสี เลเซอร์ ความถี่ 532 นาโนเมตรที่ผสานกับเลเซอร์ Nd:YAG เหมาะสำหรับการลบรอยสักสีแดง เหลือง และส้ม ซึ่งสามารถลบรอยแผลเป็นที่ผิวหนังชั้นนอกได้มากขึ้น เช่น กระ และจุดด่างดำจากแสงแดด เลเซอร์ Nd:YAG ขนาด 1,064 นาโนเมตรเหมาะสำหรับการลบรอยสักสีดำและสีน้ำเงิน และสามารถรักษารอยแผลเป็นที่อยู่ลึกในชั้นผิวหนัง เช่น ฝ้าเป็นต้น
HELIOS II มาพร้อมกับ Fractional Handpiece และ Diffraction Optical Element (DOE) ซึ่งสามารถลดความเจ็บปวดและผลข้างเคียง เช่น รอยดำหลังการอักเสบ รอยแผลเป็น ฯลฯ Fractional Handpiece แบ่งลำแสงเลเซอร์หนึ่งลำออกเป็นลำแสงเล็ก ๆ จำนวน 81 ลำ โดยไม่ทำให้ผิวหนังโดยรอบเสียหาย ช่วยลดความร้อนที่ส่งไปยังผิวหนังและคนไข้ไม่ต้องลาหยุดงาน อุปกรณ์เบี่ยงเบนแสง (DOE) ช่วยให้ HELIOS II สามารถยิงแสงเลเซอร์ได้อย่างสม่ำเสมอ
HELIOS II ยังมีความสามารถพิเศษ คือ 'การลอกผิวอย่างนุ่มนวล' (Soft Peeling) โดยจะเคลือบคาร์บอนบาง ๆ บนผิวหนัง แล้วจึงกำจัดคาร์บอนออกโดยกระจายแสงเลเซอร์เพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือสารตกค้างในการแต่งหน้า แก้ไขรูขุมขนที่อุดตัน กำจัดความมันและสิวหัวดำ ประโยชน์ของ 'การลอกผิวอย่างนุ่มนวล' (Soft Peeling) ได้แก่ ลดขนาดรูขุมขน ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ ลดความมัน ลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นด้วยการกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง ดูมีสุขภาพดี ซึ่งคนไข้ไม่ต้องลาหยุดงาน
การใช้ HELIOS II
- ฝ้า (Melasma)
- กระ (Freckles)
- รอยสัก (Tattoos)
- ปานแห่งโอตะ (Nevus of Ota)
- ปานของเบกเกอร์ (Becker’s nevus)
- ผิวด่าง (Lentigo)
- สีผิวไม่สม่ำเสมอ (Uneven skin tone)
- ปาน (Café au Lait spots)
- กระผู้สูงอายุ (age spots)
- ฟื้นฟูสภาพผิว (Skin rejuvenation)
ระยะเวลาการรักษา
จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาไม่น้อยกว่า 8 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด หากใช้เทคโนโลยีของ HELIOS II อาจต้องเข้ารับการรักษา 3-5 ครั้ง เพื่อลบรอยที่ผิวหนังซึ่งอยู่ลึกลงไป หากต้องเข้ารับการรักษาเพิ่มเติม จะต้องเว้นระยะห่างให้นาน 4-6 สัปดาห์ การรักษาครั้งต่อไปอาจต้องใช้แสงเลเซอร์ที่ความถี่สูงขึ้น เพื่อกำจัดเม็ดสีที่ตกค้าง
การดูแลหลังการลบรอยสัก
หลังการลบรอยสัก ต้องดูแลบริเวณที่ยิงแสงเลเซอร์ด้วยการทาครีมขี้ผึ้ง เช่น ปิโตรเลียมลาทัม เป็นประจำทุกวัน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของแผล ความชุ่มชื้นจะช่วยให้แผลหายดี และควรทาต่อไปจนกว่าแผลจะหายสนิท การเกิดสะเก็ดแผลเป็นเรื่องปกติและแผลจะตกสะเก็ดในอีก 1-2 สัปดาห์ คนไข้สามารถประคบเย็น เพื่อลดอาการไม่สบายหลังการยิงเลเซอร์ ควรใช้ครีมกันแดดและเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยดำหลังการอักเสบ ควรป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัดต่อไปนานอย่างน้อยหลายสัปดาห์หลังการรักษา
ความปลอดภัยของ HELIOS II
HELIOS II ได้รับการรับรองจาก FDA ของประเทศไทย ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเกาหลี และเขตเศรษฐกิจยุโรป (เครื่องหมาย CE ของ EEA)
