ศัลยกรรมซิกแพค

        ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนส่งผลกับรูปร่างของผู้ชาย อย่างเช่น ทำให้ผู้ชายมีไหล่กว้าง ขนขึ้นบริเวณหน้าอกและแขน มีลูกกระเดือก เสียงต่ำ และมีกล้ามเนื้อ โดยสัดส่วนร่างกายของผู้ชายจะมีไหล่ที่กว้าง เอวต่ำ สะโพกเล็ก เป็นรูปทรงตัววี กล้ามเนื้อส่วนที่โดดเด่นในร่างกายของผู้ชายประกอบไปด้วย กล้ามเนื้อส่วน Latissimus Dorsi กล้ามเนื้อบริเวณตั้งแต่ท้ายทอยไปจนถึงกลางหลัง (Trapezius) กล้ามเนื้อหน้าอก (Pectoral Muscle) กล้ามเนื้อบริเวณต้นแขน (Biceps and Triceps) แต่หากรู้สึกว่าร่างกายดูไม่ได้สัดส่วนอย่างที่ต้องการ ปัจจุบันก็มีศัลยกรรมปรับรูปร่างในเพศชายมากมาย อย่างเช่น การศัลยกรรมซิกแพค เพื่อทำให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

การผ่าตัดปรับรูปร่างในเพศชาย

  1. จะเป็นการปรับแต่งกล้ามเนื้อไหล่ให้มีความกว้างและหนามากขึ้น (Arms zone)
  2. สร้างความกว้างและความหนาของแผ่นหน้าอกให้เพิ่มขึ้น (Pectoral surgery)
  3. การปรับกล้ามเนื้อหน้าท้องให้เป็นซิกแพค (Abdominal sixpack)

ศัลยกรรมซิกแพค (Abdominal Etching / Abdominal Sculpting)

         การศัลยกรรมซิกแพคเป็นการศัลยกรรมที่ต้องทำการดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง ผู้ชายและผู้หญิงหลายคนใช้เวลาส่วนใหญ่ให้กับการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสร้างซิกแพคได้ด้วยการออกกำลังกาย เพราะถ้าร่างกายสะสมไขมันไว้ที่หน้าท้องเป็นส่วนใหญ่ จะทำให้เห็นซิกแพคได้ยากขึ้น

        การผ่าตัดเพิ่มซิกแพคเป็นเหมือนกับการแกะสลักหน้าท้อง เพื่อให้มองเห็นแนวกล้ามเนื้อชัดเจนและมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น บางครั้งอาจมีการผ่าตัดซิกแพคพร้อมกับการดูดไขมันส่วนอื่น ๆ ในร่างกายร่วมด้วย เช่น บริเวณเอว หรือบริเวณด้านหลัง การศัลยกรรมซิกแพคจะมีหลักการสำคัญ ๆ ดังนี้

การผ่าตัดซิกแพคพร้อมกับการดูดไขมัน

        VASER- Assisted High-Definition Liposculpture (VAHDL) เป็นการดูดไขมันบริเวณหน้าท้องเพื่อสร้างซิกแพค โดยจะมีการดูดไขมันที่ชั้นใต้ผิวหนัง Superficial Layer บางตำแหน่งที่ต้องเน้นลายเส้นกล้ามเนื้อให้ชัดเจนจะดูดไขมันชั้น Deep Layer จากนั้นจะมีการดูดและตกแต่งทำให้ไขมันห่อหุ่มกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ให้เรียบเนียน และสวยงามแบบธรรมชาติ โดยมีกล้ามเนื้อมัดเหนือสะดือ ดังรูปที่ 1

กล้ามเนื้อที่เกียวข้องกับการทำซิกแพค

รูปที่ 1: กล้ามเนื้อของผู้ชาย

บริเวณที่มีการดูดไขมันเพื่อปรับแต่งเป็นซิกแพค

รูปที่ 2: ภาพบริเวณที่มีการดูดไขมันเพื่อปรับแต่งเป็นซิกแพค

การศัลยกรรมซิกแพคจะดูดไขมันใต้ผิวหนังที่อยู่นอกช่องท้อง

        Intra-abdominal Fat เป็นไขมันที่สะสมในช่องท้อง อยู่ภายในช่องท้องเชื่อมติดกับอวัยวะภายในท้อง เพราะไขมันตรงนี้ เราจึงเป็นโรคอ้วน ในการศัลยกรรมซิกแพคจะทำการตกแต่งได้เพียงแค่ส่วนไขมันใต้ผิวหนังที่อยู่นอกช่องท้อง (Extra Abdominal Fat) เท่านั้น ไม่สามารถดูดไขมันในช่องท้องได้ (Intra-Abdominal) เพราะจะเป็นอันตรายต่ออวัยวะภายในช่องท้องได้

ไขมันที่สะสมเหนือกล้ามเนื้อและใต้กล้ามเนื้อหน้าท้อง

รูปที่ 3: ตำแหน่งของไขมันที่สะสมเหนือกล้ามเนื้อและใต้กล้ามเนื้อหน้าท้อง

ไขมันที่สะสมเหนือกล้ามเนื้อหน้าท้อง

รูปที่ 4: การสร้างซิกแพ็คของคนที่มีไขมันอยู่ด้านนอกกล้ามเนื้อหน้าท้อง

การศัลยกรรมซิกแพคในผู้หญิง

        สำหรับการศัลยกรรมซิกแพคในผู้หญิง มีขั้นตอนเช่นเดียวกับการศัลยกรรมซิกแพคในผู้ชาย แต่การผ่าตัดเพิ่มซิกแพคของผู้หญิงส่วนใหญ่ อาจไม่ได้ต้องการให้มองเห็นเป็นกล้ามเนื้อซิกแพคเท่ากับผู้ชาย แต่จะเป็นการสร้าง Sexy Line ให้เห็นเด่นชัดขึ้น ช่วยให้ผู้หญิงมีรูปร่างกระชับ ดูมีกล้ามเนื้อหน้าท้อง การผ่าตัดจะทำภายใต้ยาสลบ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

แนวเส้นกล้ามเนื้อหน้าท้องผู้หญิง (Female six pack)

รูปที่ 5: กล้ามเนื้อหน้าท้องของผู้หญิง

ผู้ที่เหมาะกับการศัลยกรรมซิกแพค

  • ผู้หญิงหรือผู้ชาย ที่มีความหนาของหน้าท้องเหมาะสมกับการผ่าตัดซิกแพค
  • ผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับการที่จะต้องลดน้ำหนัก หรือกังวลเกี่ยวกับการที่จะต้องออกกำลังกาย
  • สุขภาพร่างกายแข็งแรง
  • มีความคาดหวังอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
  • ไม่สูบบุหรี่

 

รีวิวการศัลยกรรมซิกแพค ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมซิกแพค

  • ปรึกษาศัลยแพทย์และวิสัญญีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
  • ผ่านการตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจเลือดทั่วไปเพื่อหา CBC, HIV, Hepatitis  ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า EKG และ Stress test กรณีผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าหัวใจแข็งแรงเพียงพอที่จะเข้ารับการผ่าตัดและดมยาสลบ หรืออายุน้อยกว่านี้ที่แพทย์เห็นว่าอาจจะมีความเสี่ยง รวมถึง X-ray ปอดด้วย
  • หยุดสูบบุหรี่
  • หยุดรับประทานยากลุ่มแอสไพริน ยาลดอาการอักเสบ หรือสมุนไพร เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะเลือดออกมากขึ้นได้ 

 

ขั้นตอนการศัลยกรรมซิกแพค

  1. การผ่าตัดเพิ่มซิกแพคจะทำภายใต้ยาสลบ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  2. ในแต่ละส่วนของผิวหนังในร่างกายประกอบไปด้วยปริมานไขมันที่ไม่เท่ากัน การศัลยกรรมซิกแพค ศัลยแพทย์จะพิจารณาดูดไขมันตั้งแต่ ใต้ราวนม หน้าท้อง และจะดูดไขมันสร้างแนวกล้ามเนื้อหน้าท้อง
  3. ทำความสะอาด และเย็บปิดบาดแผล

การดูแลหลังทำ ศัลยกรรมซิกแพค

  • เป็นเรื่องปกติที่จะมีของเหลวไหลออกจากร่างกาย โดนเสื้อผ้าหรือผ้าปูที่นอนบ้างใน 24-72 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัด เป็นของเหลวที่ถูกใส่เข้าไปในบริเวณที่จะดูดไขมัน เพื่อไม่ให้เนื้อเยื้อบริเวณที่จะดูดไขมันบอบซ้ำมาก
  • สวมใส่ชุดกระชับรัดตลอดเวลา อย่างน้อย 1 เดือน ยกเว้นตอนอาบน้ำ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว ลดอาการบวม
  • ใช้ชีวิตที่บ้านตามปกติ สวมชุดยกกระชับรัดตลอดเวลาเพื่อไล่น้ำเหลือง และช่วยให้แผลยุบบวมเร็วขึ้น
  • สามารถอาบน้ำได้แต่ห้ามให้แผลโดนน้ำ ภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังผ่าตัด แต่ต้องใส่ชุดกระชับลำตัวสามารถโดนน้ำและสบู่ได้ แต่ห้ามขัดถูแรง บริเวณแผลต้องเช็ดให้แห้ง
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ห้ามกิจกรรมโดนน้ำ เช่น ลงอ่างอาบน้ำ ว่ายน้ำ
  • ออกกำลังกายได้หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ หรือตามแพทย์แนะนำ
  • พบแพทย์ตามนัด
  • ตัดไหม 7 วันหลังผ่าตัด

 

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนหลังการศัลยกรรมซิกแพค

  • เป็นพังผืดใต้ผิวหนัง (Fibrosis) แก้ไขโดยนวด หรือใช้อัลตร้าซาวด์
  • Cellulite
  • Deformities
  • ซิกแพคอาจจะไม่เท่ากัน (Asymmetries) ทั้งสองด้าน
  • แผลสมานไม่ดี (Poor healing)
  • อาการบวม (Swelling)
  • ปวด (Pain)
  • ช้ำ (Bruising)

 

การพักฟื้นหลังการผ่าตัดซิกแพค

       ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับมาทำงานได้ภายใน 2-5 วัน หลังการผ่าตัด ต้องสวมชุดรัดกระชับ 2-3 สัปดาห์ พบแพทย์ตามนัดทุกสัปดาห์ การศัลยกรรมซิกแพคจะเห็นผลชัดเจนหลังผ่าตัดประมาณ 2-3 เดือน

รูปก่อนและหลังศัลยกรรมซิกแพค ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล

ดูรูปก่อนและหลังศัลยกรรมซิกแพคเพิ่มเติม

สาระน่ารู้ การศัลยกรรมซิกแพค 

การสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องสำหรับผู้หญิง (Six Pack)

การสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องสำหรับผู้หญิง เป็นการศัลยกรรมความงามที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องสำหรับผู้หญิง ให้เห็นเส้นกล้ามเนื้อที่ชัดเจน เซ็กซี่ สวยงาม สุขภาพดี

การสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องสำหรับผู้ชาย (Six Pack)

การสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องสำหรับผู้ชาย เป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในการช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องสำหรับผู้ชาย ให้เห็นซิกแพคที่ชัดเจน ดูมีเสน่ห์

ร่อง 11 ในฝันสร้างได้ !! ด้วยการผ่าตัดซิกแพคสำหรับผู้หญิง

"Sexy Line" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ร่อง 11 เป็นคำที่ใช้อธิบายลักษณะกล้ามเนื้อที่เป็นร่องกล้ามเนื้อแนวยาว บริเวณหน้าท้องของผู้หญิง ที่จะช่วยให้ดูแข็งแรง เซ็กซี่ สุขภาพดี

ข้อแนะนำ หากอยากมี Six-Pack ที่สวยงามด้วยการผ่าตัดซิกแพค

  • การปรึกษาศัลยแพทย์ : คนไข้ต้องปรึกษาศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพร่างกายว่าเหมาะสมสามารถทำได้หรือไม่ และแจ้งถึงความคาดหวังให้ศัลยแพทย์ได้ทราบ
  • การดูดไขมัน : ศัลยแพทย์จะใช้การดูดไขมัน (Liposuction) เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณหน้าท้อง
  • การแกะสลักรูปร่าง : เมื่อกำจัดไขมันส่วนเกินออกแล้ว ศัลยแพทย์จะใช้มีดผ่าตัดกรีดกล้ามเนื้อ เพื่อสร้างรูปร่างเหมือนซิกแพค (Six-Pack)
  • การพักฟื้น : หลังการผ่าตัด คนไข้ต้องพักฟื้นและปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ในการดูแลหลังการผ่าตัด เช่น การรับประทานยาแก้ปวด การหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง และการสวมชุดรัดกล้ามเนื้อเพื่อช่วยลดอาการบวม
  • การติดตามผลการผ่าตัด : คนไข้ต้องพบศัลยแพทย์เพื่อติดตามผลการผ่าตัดจนแน่ใจว่าได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจไม่มีผลข้างเคียง

 

ทำไมต้องศัลยกรรมซิกแพค ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล

  1. ศัลยแพทย์ตกแต่งที่เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดซิกแพคและการดูดไขมันโดยเฉพาะ ผ่านการเรียนกับผู้เชี่ยวชาญดูดไขมัน ระดับโลก Dr. Alfredo Hoyos
  2. ดูดไขมันได้เรียบเนียน ไม่เป็นคลื่น
  3. มีการปรับแต่งรูปร่างให้สวยงามได้สัดส่วน
  4. ดูดไขมันได้ปริมาณมาก ประมาณ 5-10 ลิตรต่อครั้ง
  5. มีการดูแลการให้สารน้ำระหว่างการผ่าตัดด้วยวิสัญญีแพทย์
  6. ไม่บอบช้ำมากหลังผ่าตัด
  7. มีการนวดไล่น้ำเหลืองหลังผ่าตัด (Lymphatic drainage) เพื่อช่วยลดการบวมและทำให้รูปทรงเข้าที่เร็วขึ้น
  8. การดูดไขมันภายใต้การดมยาสลบด้วยวิสัญญีแพทย์ ทำให้ให้ดูดไขมันได้อย่างเต็มที่ไม่เจ็บ
  9. ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน ปลอดเชื้อ ด้วยมาตรฐานระดับโลก
  10. เครื่องมือทันสมัย ปลอดเชื้อด้วยมาตรฐาน JCI
  11. หลังผ่าตัดอยู่ห้องพักฟื้น และพักที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อช่วยดูแลแผลหลังผ่าตัดและไล่น้ำเหลือง
  12. ให้ชุดซัพพอร์ตใสกระชับหลังผ่าตัด เพื่อช่วยลดบวม และกระชับรูปร่างเร็วขึ้น
 
 
 
 

World-Class_Elite_Plastic_Surgeons

World-Class_Professional_Healthcare

World-Class_Services